ที่ Omise เมื่อเราคิดหาแนวทางที่ต่างออกไปในการแปลงเงินที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ให้เป็นเงินในโลกดิจิทัล เราพยายามคำนึงถึงทั้งผลดีและผลเสียที่ทุกภาคส่วนจะได้รับ ผู้ออกเงินตรา ไปจนถึงผู้ค้า และผู้ใช้ที่เพียงแค่ต้องการชำระค่าใช้จ่ายหรือโอนเงิน การให้น้ำหนักแก่มุมมองของใครคนใดคนหนึ่งมากไปอาจทำให้ดุลแห่งอำนาจเสียไปได้ไม่ยากแม้จะไม่ตั้งใจ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาขาดเสถียรภาพและมองข้ามความต้องการของผู้ใช้ประโยชน์บางกลุ่ม ดังนั้น Omise GO ระบบ e-wallet แบบ white-label บนเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ (decentralized network) ของเรา จึงยึดเสาหลักทั้งสี่นี้เป็นสำคัญ

1. เปิดกว้างครอบคลุม
2. เชื่อมโยงทุกทิศ
3. ลื่นไหล
4. ใช้กลยุทธ์ทางอ้อม
   

มาดูกันไปทีละข้อนะครับ

อันดับแรกเลยก็คือ Omise GO สนับสนุนระบบการเงินที่เปิดกว้างครอบคลุม นี่คือวัตถุประสงค์หลักของเรา ใคร ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของกระเป๋าสตางค์ซึ่งเชื่อมโยงกับคนอื่น ๆ ได้โดยตรง ไม่ว่าจะยากดีมีจน หรืออาศัยอยู่ในประเทศใดก็ตาม เทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ เช่น บลอคเชนที่ใช้ระบบ proof-of-stake จะทำให้เราเปิดโอกาสให้ทุกคนร่วมเป็นเจ้าของโดยตรงได้ และแม้จะแทบไม่เคยมีระบบเช่นนี้มาก่อน เราก็เชื่อว่าเรามาถูกทางแล้ว หากคิดจะทำให้เป้าหมายของเสาหลักข้อที่หนึ่งนี้เป็นจริง

อันดับที่สอง Omise GO เน้นการเชื่อมโยงทุกทิศทาง ซึ่งหมายถึงความสามารถในการทำงานร่วมกัน ทั้งในระดับแอปพลิเคชันระหว่าง e-wallet ค่ายต่าง ๆ และบริการทางการเงิน ไปจนถึงขั้นบลอคเชน อีกไม่นาน Internet of Blockchain ก็จะเป็นจริง และเราก็ต้องการให้ Omise GO มีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติครั้งนี้

อันดับที่สาม การนำ Omise GO ไปใช้นั้นก็คล้ายกับการเล่นโกะ ซึ่งต้องลื่นไหลดังสายน้ำที่ไหลผ่านสิ่งกีดขวาง และพลิกแรงเสียดทานให้เป็นโอกาสใหม่ ชัยชนะบนกระดานหมากรุกนั้นมาจากการไล่กินตัวหมากของคู่ต่อสู้ ทว่าบนกระดานโกะนั้น การกินหมากของคู่ต่อสู้อาจจะสร้างแต้มต่อได้บ้าง แต่ชัยชนะจะมาจากการครอบครองตารางบนกระดานต่างหาก เราเชื่อว่าที่ว่างระหว่างโลกของผู้ที่ไม่อาจเข้าถึงบริการธนาคารและระบบการเงินก็คือตารางบนกระดานที่ว่า การครอบครองพื้นที่ว่างเหล่านี้จะเป็นกุญแจไปสู่ความสำเร็จที่เหนือกว่าของเรา

สุดท้าย Omise GO ใช้กลยุทธ์ทางอ้อม ซึ่งเหมาะกับบริการแบบ white-label แม้เราตั้งใจจะคอยสนับสนุนพันธมิตรของเราในการสรรค์สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ที่ดีที่สุด สุดท้ายแล้ว เราก็เป็นเพียงผู้ให้บริการระบบเชื่อมโยงทุกทิศทางที่ห้างร้านต่าง ๆ สามารถปรับแต่งให้ตอบโจทย์ลูกค้าของตน

สุดท้ายนี้ ผมอยากจะฝากเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยว่าด้วยชื่อ Omise GO ไว้สักนิดครับ

1. 'Go'(โก) แปลว่า 5 ในภาษาญี่ปุ่น เหรียญที่มีมูลค่า 5 เยนนั้นจะมีรูตรงกลางและรูปลักษณ์ที่คล้ายกับเหรียญโบราณคันเอย์ ทซึโฮะ โลโก้ใหม่ของ Omise สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์นี้ เป็นทั้งการคารวะระบบเงินตราแบบดั้งเดิม และสื่อถึงความล้ำนำสมัย
   
2. 'Go yen' (โกเยน หรือ 5 yen) ออกเสียงคล้ายกับคำว่า “โก-เอ็น” ซึ่งแปลว่า “ความสัมพันธ์อันดี” ที่ญี่ปุ่นนั้น การมอบเหรียญ 5 เยนให้แก่กันเป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาดี และ Omise GO ก็คือระบบการเงินที่เปิดกว้างครอบคลุมอย่างแท้จริงที่เราอยากมอบให้ทุกคน คือสายสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ที่ใช้ระบบ wallet ของเรา โดยเฉพาะผู้ที่ไม่อาจเข้าถึงบริการธนาคารได้ นอกจากนี้ เหรียญ 5 เยนยังเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับระบบการเงินที่เปิดกว้างครอบคลุมอย่าง Omise GO เพราะสื่อถึงเงินในมูลค่าน้อย ๆ ที่ใคร ๆ ก็มีได้
   

ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาและให้ความสนใจนะครับ (ご清聴ありがとうございました)
จุน ฮาเซกาวา, CEO Omise