Kaidee
เป้าหมายของ Kaidee คืออะไร?
เป้าหมายของ Kaidee คือการเป็นผู้นำด้านการซื้อขายสินค้ามือสองในประเทศไทยผ่านช่องทางออนไลน์ โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เป็นมิตรกับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ทาง Kaidee เชื่อว่าการมีแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การซื้อขายสะดวกและเป็นเรื่องง่ายจะเป็นประโยชน์กับคนไทยทุกๆ คน และด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนนี้ ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี Kaidee ได้ก้าวเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ามือสองที่ใหญ่ที่สุด มีผู้ใช้งานกว่า 7 ล้านคนต่อเดือน
Kaidee เข้ามาแก้ปัญหาอะไร?
เราเชื่อว่าการซื้อขายสินค้ามือสองเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับคนไทยและทุกคนควรจะเข้าถึงมันได้ง่าย เรารู้อยู่แล้วว่าในบ้านทุกหลังจะมีตู้หรือห้องเก็บของที่เต็มไปด้วยของที่เราไม่ได้ใช้แล้ว เราจึงได้สร้างแพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนของมือสองที่ใช้งานง่ายสำหรับทุกคนขึ้นมา เป้าหมายของเรา (ในมุมมองของฝ่ายนักวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์) คือการที่มีแพลตฟอร์มใช้งานง่ายและเน้นของใช้ที่มีความต้องการสูงในตลาด
สำหรับ Kaidee เรามองผู้ใช้งานก่อนเสมอ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เรานำเสนอมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเป็นหลัก ทีมงานของเราทำการวิเคราะห์เทรนด์ของตลาด เพื่อรวบรวมข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ให้ได้มากที่สุด
แพลตฟอร์มเรา win-win สำหรับทุกฝ่าย ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และคนไทยทุกๆ คน
Kaidee Egg คืออะไร?
Kaidee Egg คือ อี-เครดิต (e-credit) เป็นเสมือนหน่วยเงิน ใช้สำหรับจ่ายค่าบริการต่างๆ เช่น บริการ 'Bump' บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของ Kaidee เนื่องจากผู้ใช้บริการของเราจำนวนมากเข้าถึงบริการผ่านโทรศัพท์มือถือ เราอยากจะอำนวยความสะดวกให้ได้มากที่สุด จึงเลือกรับชำระเงินผ่านทาง SMS เป็นช่องทางแรก หลังจากที่เราเปิดช่องทางนี้ไปได้ระยะหนึ่งเราก็เริ่มเก็บความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริง เมื่อนำข้อมูลทั้งหมดที่มีมานั่งวิเคราะห์กันดูแล้ว จึงเลือกเพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินบนแพลตฟอร์มของ Kaidee ได้เลย
ทำอย่างไรให้ลูกค้ากล้าจ่ายผ่านบัตรออนไลน์?
การพาร์ทเนอร์กับระบบรับชำระเงินที่เป็นแบบ white-label เรามองว่า UX และ UI เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้ซื้อวางใจได้ อีคอมเมิร์ซไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทยอีกแล้ว คนไทยคุ้นเคยกับการซื้อของและใช้จ่ายออนไลน์มากขึ้น หลายๆ คนจะมองหาเว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS สำหรับร้านค้าออนไลน์อาจลองแสดงโลโก้ PCI-DSS ให้เห็นหรืออาจแสดงสัญลักษณ์รูปกุญแจ ตรงนี้ก็สามารถช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้อีกทาง
การเชื่อมต่อกับระบบรับชำระเงินแบบ white-label ซึ่งจะไม่มีการส่งลูกค้าเราไปหน้าต่างหรือเว็บไซต์ใหม่เพื่อทำการชำระเงินก็เป็นอีกหนึ่งข้อดี เพราะทุกอย่างสามารถจบที่เว็บไซต์ Kaidee เลย ตัวลูกค้าก็มั่นใจว่ากำลังชำระเงินให้เราโดยตรง
วิธีการเลือกระบบรับชำระเงิน ดูที่อะไร?
ปัจจุบันระบบรับชำระเงินออนไลน์มีตัวเลือกเยอะขึ้น สำหรับเราไม่ได้เน้นชื่อเสียงหรือเจ้าที่ใหญ่ที่สุด แต่เราคำนึงถึงระบบที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจของเรามากกว่า
เรามองว่าการได้ทดสอบการทำงานของระบบรับชำระเงินก่อนที่จะเริ่มเชื่อมต่อและนำไปใช้งานจริงเป็นเรื่องสำคัญ ในการทำธุรกิจท่ามกลางการแข่งขันสูงแบบนี้เราต้องพิจารณาทุกอย่างให้รอบคอบ ทดสอบการทำงานอย่างถี่ถ้วนก่อนจะปล่อยฟีเจอร์หรือผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ๆ ออกไปสู่ผู้ใช้งาน
ทำไมถึงเลือกโอมิเซะ?
นอกเหนือจากประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นสำหรับผู้ใช้บริการแล้ว เราตัดสินใจเลือกระบบรับชำระเงินที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย เรามั่นใจในระบบของโอมิเซะที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน PCI-DSS อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คอยตรวจสอบการทุจริตมาทำงานเสริมกันอยู่ด้วย ระบบของโอมิเซะยังสามารถให้ทีมงานของเราทดสอบระบบก่อนใช้งานจริงและมีขั้นตอนการเชื่อมต่อที่สะดวกและเรียบง่าย ใช้เวลาเพียงไม่กี่อาทิตย์ก็เริ่มรับชำระเงินได้เลย
ข้อคิดถึงผู้ที่อยากทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
การเลือกระบบรับชำระเงินเป็นเรื่องสำคัญและควรให้เวลาในการศึกษาระบบและบริการที่สอดคล้องกับตัวธุรกิจ การที่เราได้เลือกระบบรับชำระเงินที่เหมาะกับธุรกิจของเรานั้นสามารถช่วยผลักดันให้ธุรกิจเราเติบโตขึ้นได้ด้วย