Divyne London ผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฟอกฟันขาวโดยทันตแพทย์ชาวอังกฤษสำหรับใช้เองที่บ้าน พัฒนาเว็บไซต์บนแพลตฟอร์ม Shopify และก็ได้เลือกใช้ระบบรับชำระเงินโอมิเซะตั้งแต่เปิดตัวธุรกิจเมื่อช่วงต้นปี 2561 ที่ผ่านมา ทางเจ้าของแบรนด์เองให้ความสำคัญกับเรื่อง UI/UX เป็นพิเศษ ทุกวันนี้กว่า 90% ของผู้ที่เข้าเว็บไซต์ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ

เรามาดูกันว่าโอมิเซะสามารถเข้ามาช่วยธุรกิจแบบ Divyne London ได้อย่างไรบ้าง

ที่เรามองไว้ตั้งแต่แรกเลยคือต้องการจะสร้างประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์ของเราที่เป็นมากกว่าการซื้อ-ขายเดิมๆ ที่ลูกค้าเคยเจอ โดยต้องการรักษามาตรฐาน UI/UX ที่ดีเอาไว้ด้วย เราคำนึงถึงการใช้งานของลูกค้า (customer journey) เป็นหลักจึงตั้งใจวางแผนให้ดีในทุกๆ สเต็ป มีช่องทางสั่งซื้อที่เข้าถึงได้ง่าย และทีมซัพพอร์ตที่คอยให้ข้อมูลและดูแลตอบคำถามทุกคนอย่างใกล้ชิด ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคอยู่บนโลกออนไลน์แบบนี้ เรายังเลือกใช้ช่องทางอื่นๆ ช่วยสร้างการรับรู้ โดยเลือกสื่อสารเรื่องราวและตัวตนของแบรนด์ออกไป เพื่อช่วยกระตุ้นความรู้สึกอยากใช้ เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าของเราแล้วจดจ่อรอรับของเพื่อจะแกะกล่องผลิตภัณฑ์ออกมา

การจะบรรลุความตั้งใจตรงนี้ของเราได้ เจ้าของธุรกิจเองต้องเข้าใจลูกค้าที่เป็นกลุ้มเป้าหมายให้มากที่สุดด้วย เป็นความตั้งใจของเราตั้งแต่แรกเลยที่จะพัฒนา mobile site ก่อน แล้วจึงค่อยกลับไปทำเวอร์ชันสำหรับเดสก์ทอป และเราก็คิดไม่ผิดจริงๆ เพราะตอนนี้กว่า 95% ของผู้เข้าชมเว็บไซต์เราใช้งานผ่านมือถือ

เหตุผลที่เลือกพัฒนาเว็บไซต์บน Shopify

Shopify มีระบบที่ค่อนข้างเสถียรทีเดียว หากมีผู้เยี่ยมชม (traffic) เว็บไซต์จำนวนมากเราก็ไม่ต้องห่วง ปกติแล้วถ้าไม่ได้มีทีม IT เป็นของตัวเองคอยดูแลอยู่ การจะทำให้ระบบมีความพร้อมใช้อยู่เสมอแบบนี้ทำได้ค่อนข้างยาก

ก่อนเริ่มต้นใช้งาน Shopify เราเคยมีประสบการณ์กับระบบบริหารเว็บไซต์แบบสำเร็จรูป (CMS) อื่นมาก่อน ปัญหาที่พบก็คือเซิร์ฟเวอร์มักจะล่มในช่วงที่มีผู้ใช้งานเว็บไซต์เราจำนวนมากๆ หลังจากที่เราเปลี่ยนมาใช้ Shopify เราไม่ต้องห่วงเรื่องนี้อีกเลย สามารถเอาเวลาไปโฟกัสกับเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญมากกว่าสำหรับธุรกิจของเราได้

มาลงเอยกับโอมิเซะได้อย่างไร?

โอมิเซะลงตัวที่สุดแล้วสำหรับ Divyne London ทีมที่ดูแลด้าน IT ของเรามีประสบการณ์การทำงานร่วมกับเพย์เมนท์เกตเวย์ในต่างประเทศ เราก็ตั้งใจหาผู้ให้บริการซึ่งมีมาตรฐานระดับสากลในบ้านเรา ที่ถูกใจโอมิเซะก็ด้วยมาตรฐานของบริการ รวมถึงกระบวนการทำงานต่างๆ ที่ได้ผ่านการคิดมาอย่างรอบคอบแล้ว สำคัญคือมีทีมงานช่วยเหลือคอยดูแลเราตลอด โอมิเซะไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการระบบรับชำระเงิน แต่เป็นเหมือนพาร์ทเนอร์ของเรามากกว่า

การรับชำระเงินเป็นปัจจัยสำคัญต่อธุรกิจของเรา นอกจากเรื่องความปลอดภัยและการมีทีมงานช่วยเหลือที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับ conversion optimization ด้วย ใครที่ใช้ Shopify จะทราบดีว่ามีข้อจำกัดของระบบเค้า คือถ้าเราเลือกใช้เกตเวย์ที่เป็น third party กระบวนการชำระเงินจะต้องเป็นแบบ redirect คือมีการส่งผู้ซื้อไปยังหน้ารับชำระเงินของผู้ให้บริการเพื่อกรอกข้อมูลบัตร แต่เราใช้โอมิเซะจึงค่อนข้างวางใจ รู้ว่าแบบฟอร์มกรอกข้อมูลบัตรถูกดีไซน์และทดสอบมาอย่างดีแล้วทั้งในส่วนของ UI/UX ซึ่งตรงนี้ช่วยเพิ่มยอดขายให้เราได้

ลูกค้าของ Divyne London สามารถเลือกชำระเงินได้ 3 ช่องทาง คือ ชำระเงินปลายทาง, โอนเงินผ่านธนาคาร และ ชำระผ่านบัตร ตั้งแต่เริ่มใช้โอมิเซะเราเห็นชัดเลยว่าลูกค้าของเราเลือกชำระเงินผ่านบัตรมากขึ้น แทนช่องทางออฟไลน์แบบเดิมที่เคยใช้ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเราด้วย เพราะไม่ต้องคอยตาม ทีมไฟแนนซ์ก็บาลานซ์ยอดง่ายขึ้นด้วย

ฝากถึงผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซอื่นๆ

การทำธุรกิจรูปแบบเดิมคือมีหน้าร้าน ส่วนตอนนี้เราทำธุรกิจออนไลน์หน้าเว็บไซต์ก็คือหน้าร้านของคุณ การที่มีพาร์ทเนอร์ที่เข้าใจการทำอีคอมเมิร์ซเป็นเรื่องสำคัญ วางแผนการพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีตั้งแต่ต้นไปเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไขกันในภายหลัง

สิ่งที่ทำให้ประทับใจโอมิเซะมากที่สุดคือเราเห็นชัดเลยว่าโอมิเซะเข้าใจการทำอีคอมเมิร์ซอย่างแท้จริง และได้ออกแบบบริการที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการอย่างเรา ทำให้เราสามารถออกแบบประสบการณ์การใช้งานที่หน้าเว็บไซต์ได้ราบรื่นอย่างที่ต้องการ